fbpx
 

4 อย่างที่ต้องทำถ้าอยากขายสินค้าไปต่างประเทศ

ขายของไปต่างประเทศ

4 อย่างที่ต้องทำถ้าอยากขายสินค้าไปต่างประเทศ

ถ้าพูดถึงการ ขายของไปต่างประเทศ คงเป็นความฝันของใครหลายๆ คนที่กำลังประกอบธุรกิจอยู่ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจ SMEs หรือธุรกิจขนาดใหญ่ ที่จะได้ขยายตลาดไปยังกลุ่มลูกค้าในต่างประเทศ ซึ่งมีจำนวนมากกว่าลูกค้าในประเทศไทย เปิดโอกาสใหม่ๆที่จะสร้างรายได้ให้กับธุรกิจมากยิ่งขึ้น แต่หลายๆคนที่คิดอยากจะขายสินค้าไปต่างประเทศมักจะเกิดความกังวลและคิดว่ามันเป็นเรื่องยากลำบากและยังเป็นเรื่องไกลตัวไปมาก

ในบทความนี้เราจะมาดูกันว่า ถ้าอยากขายสินค้าไปต่างประเทศ ขยายไปยังกลุ่มลูกค้าใหม่ๆที่อยู่ในทวีปต่างๆ เราจะเริ่มต้นได้อย่างไร บอกได้เลยว่ามันไม่ได้ยากอย่างที่คิด

โดยปกติแล้วถ้าคุณต้องการส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศ คุณจะต้องมีตัวแทนในการกระจายสินค้า ตัวแทนในการรับชำระเงินจากลูกค้า รวมถึงยังต้องมีกำลังทรัพย์มากพอในการส่งออก แถมยังอาจจะต้องมีบริษัทตัวแทนที่อยู่ต่างประเทศ ซึ่งถ้าหากคุณเป็นธุรกิจขนาดเล็ก หรือผู้ค้าปลีกรายย่อยเท่ากับว่าคุณก็หมดโอกาสในการทำธุรกิจส่งออก? แต่ปัญหาเหล่านี้มันจะจบไปถ้าคุณหันมาขายของออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ E-commerce ต่างๆ ซึ่งคุณไม่จำเป็นต้องมี Dealer ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดไหนก็สามารถที่จะทำได้ โดยเริ่มต้นตามขั้นตอนทั้ง 4 นี้ค่ะ

1. วิเคราะห์ตลาด เลือกสินค้าที่เหมาะสม

ขั้นตอนแรกสุดคือการวิเคราะห์เพื่อทำความเข้าใจกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย อะไรคือสิ่งที่เขาต้องการ แล้วสินค้าที่คุณต้องการจะขายตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าหรือไม่ วิเคราะห์สินค้าที่กำลังอยู่ในเทรนด์ เป็นสินค้าที่ลูกค้าให้ความสนใจ เราจะต้องทำการวิเคราะห์เพื่อเลือกสินค้าที่จะช่วยสร้างกำไรให้กับเราได้

2. วางแผนการตลาดให้ดี

ขั้นตอนถัดมาเป็นเรื่องของการตลาด เมื่อเรารู้แล้วว่าเราจะขายสินค้าอะไรกับให้ใคร คำถามต่อมาคือเราจะสร้างจุดขายอย่างไร อะไรเป็นจุดเด่นของเราที่มีมากกว่าของคู่แข่ง ทำไมลูกค้าถึงต้องซื้อสินค้าจากเราแทนที่จะซื้อจากผู้ขายรายอื่นๆ นำเอาข้อมูลเชิงลึกที่ได้จากการวิเคราะห์นี้มาพัฒนาการตลาดของเรา

3. เลือก Marketplace ที่ตรงกับกลุ่มลูกค้าเรา

คำว่า Marketplace คืออะไร? ถ้าพูดง่ายๆ เป็นเว็บไซต์ที่ใช้เป็นสื่อกลางในการติดต่อซื้อขายของออนไลน์ หรือเรียกง่ายๆ ว่า “ตลาดนัด” แต่เป็นตลาดนัดที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้จากทุกที่และทุกเวลา ซึ่ง Marketplace เป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลขนาดใหญ่ที่ใช้รวบรวมข้อมูลของผู้ซื้อและผู้ขายเอาไว้เป็นจำนวนมาก ซึ่งมีให้ใช้หลากหลายอย่างที่เรารู้จักกันของต่างประเทศก็จะมี Amazon กับ Alibaba หรือ eBay ส่วนในประเทศไทยที่เรารู้จักกันหลักๆ ก็จะมี Lazada, และ Shopee ที่เปิดบริการให้เราเข้าไปขายสินค้าได้โดยมีเครื่องมือต่างๆเตรียมเอาไว้ให้ใช้งานง่าย

ในแต่ละวัน Marketplace มีผู้ใช้จำนวนมาก ผู้ใช้งานก็ไม่ใช่ใครที่ไหนก็เป็นลูกค้าที่อยู่ในแต่ละประเทศ ซึ่งแปลว่าถ้าคุณโพสต์ของลงขายสินค้าใน Marketplace เหล่านี้ก็มีโอกาสที่คนจะเห็นและเข้าถึงสินค้าของคุณได้ง่ายมากขึ้น ทำให้มีโอกาสเพิ่มยอดขาย ปัจจุบันคนหันมาใช้ E-commerce กันมากขึ้น เพราะสะดวกสามารถหาข้อมูลสินค้าและเปรียบเทียบสินค้าได้ทันที และทำสำคัญคือเหมาะสมหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาไปช็อปปิ้ง เพราะสามารถสั่งซื้อและรอรับของได้ที่บ้าน สำหรับการขายสินค้าไปยังต่างประเทศ แน่นอนว่าคงหนีไม่พ้น Amazon กับ eBay โดยปัจจุบัน Amazon กลายเป็น Marketplace ที่ผู้ขายชาวไทยนิยมมากที่สุด

4. วางแผนเรื่องการจัดส่งสินค้า

การขายสินค้าไปต่างประเทศแน่นอนว่าผู้ขายต้องให้ความสำคัญเรื่องการจัดส่ง จะต้องมีการวางแผนการจัดส่งให้ดี ตั้งแต่การเลือกบริการที่เหมาะสม การแพ็คของให้ได้มาตรฐาน การเลือกผู้ให้บริการที่มาตรฐานที่ดี เพราะนอกจากจะทำให้ลูกค้าที่รอรับสินค้าประทับใจแล้ว ยังส่งผลต่อกำไรที่ได้อีกด้วย ถ้าหากวางแผนเรื่องการจัดส่งไม่ดี อาจจะทำให้ลูกค้าไม่ประทับใจจากกว่าล่าช้า รวมถึงราคาค่าจัดส่งอาจจะไปกินกำไรที่ได้จากการขายสินค้าหมด สำหรับมือใหม่ที่กำลังมองหาวิธีการจัดส่งสินค้าไปต่างประเทศที่รวดเร็วและราคาเหมาะสมสามารถติดต่อทีมงาน FastShip เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม หรือศึกษาข้อมูลได้ที่ https://fastship.co/how-to-send-parcel/



Bitnami