แชร์วิธีเช็คสถานะพัสดุส่งไปต่างประเทศ ให้ได้รายละเอียดครบถ้วน

        ด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบันทำให้การติดตามสถานะของพัสดุที่ส่งไปต่างประเทศนั้นสามารถทำได้อย่างสะดวกและรวดเร็วกว่าในอดีตมาก เราสามารถเช็คสถานะของพัสดุได้ว่าของที่เราส่งไป ตอนนี้ไปถึงขั้นตอนไหนและเดินทางไปถึงที่ใดแล้ว โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ใช้บริการส่งของไปต่างประเทศกับ FastShip คุณสามารถที่จะเช็คสถานะของพัสดุที่ส่งไปต่างประเทศได้อย่างละเอียดมากๆ สามารถทำตามขั้นตอนในการเช็คสถานะพัสดุที่ส่งไปต่างประเทศได้ไม่ยาก ตามมาดูวิธีกันเลยค่ะ

วิธีเช็คสถานะพัสดุส่งไปต่างประเทศ

        วิธีการเช็คสถานะพัสดุส่งไปต่างประเทศกับ FastShip สามารถทำได้ดังต่อไปนี้

1. เปิดเข้ามายังเว็บไซต์ของ FastShip และทำการล็อกอินเข้าสู่ระบบให้เรียบร้อย จากนั้นให้คลิกเข้าไปที่เมนู “สถานะพัสดุ” เพื่อทำการเช็ครายการจัดส่ง
   
   
2. นำหมายเลข Shipment ที่ได้ตอนจัดส่งเข้ามามาตรวจค้นหารายการจัดส่งของคุณ
   
   
3. หรือจะนำหมายเลข Tracking number ไปเช็คสถานะของพัสดุที่ URL: https://track.fastship.co/ ก็ได้เช่นกัน ให้คลิกที่ Tracking number แล้วกรอกตัวเลขเข้าไป จากนั้นคลิกที่ปุ่ม Track
   
   
4. อีกหนึ่งวิธีสำหรับเช็คสถานะของพัสดุคือการเช็คผ่านเว็บไซต์ของผู้บริการขนส่งที่คุณเลือกใช้งานโดยตรง เช่น FedEx สามารถเช็คสถานะของพัสดุได้โดยการเข้าไปที่ URL > https://www.fedex.com/th-th/tracking.html
   
   

ข้อมูลที่ต้องเช็คเวลาที่ส่งของไปต่างประเทศควรดูข้อมูลอะไรบ้าง

        ลูกค้าสามารถ นำเลข tracking ที่ได้รับจาก Fastship เข้ามาเช็คสถานะในเว็บไซต์ได้ หรือสามารถนำเลขพัสดุเข้าไปเช็คสถานะในเว็บไซต์ของ Agent ได้โดยตรงเช่นกัน เมื่อเช็คสถานะของพัสดุแล้วจะได้ข้อมูลหลักๆ อย่างคือ พัสดุอยู่ที่ใด ไปถึงที่ประเทศใดแล้ว  ซึ่งสถานะที่จะเห็นเวลาเช็คสถานะบน https://track.fastship.co/ มีดังต่อไปนี้้

1. Picked up: เมื่อคุณส่งพัสดุไปต่างประเทศกับ FastShip แล้วเอเจ้นท์ได้เข้ามารับพัสดุจาก FastShip เรียบร้อยแล้วจะแสดงสถานะเป็น Picked up (ขั้นตอนนี้พัสดุอยู่ในประเทศไทย)
2. On the Way / In transit: พัสดุที่จัดส่งอยู่ในระหว่างการจัดส่ง
3. Arrived at hub: พัสดุเดินทางไปถึงจุดรวบรวมพัสดุของเอเจ้นท์ (ขั้นตอนนี้ ส่วนใหญ่อยู่ในต่างประเทศ)
4. Preparing for Delivery: กำลังจัดเตรียมสำหรับส่งพัสดุไปยังจุดหมายปลายทาง
5. Out for Delivery: นำส่งพัสดุไปยังจุดหมายปลายทาง
6. Delivered: พัสดุส่งถึงปลายทางแล้ว

        ทั้ง 6 สถานะนี้จะช่วยบอกรายละเอียดในการจัดส่งพัสดุให้คุณได้รู้ว่าในแต่ละช่วงเวลาพัสดุอยู่ในสถานะใด ไปถึงขั้นตอนไหนแล้ว ซึ่งแน่นอนว่าจะมีการเก็บประวัติของการจัดส่งตลอดเส้นทาง ทำให้สามารถรู้ข้อมูลได้ว่าในแต่ละวันที่ผ่านไปนั้น การจัดส่งไปถึงสถานะใดในวันใด ซึ่งจะมีการอัพเดตข้อมูลเรื่อยๆจนกว่าจะส่งสินค้าสำเร็จ สามารถติดตามข้อมูลจากเลข Tracking ได้อย่างสะดวก และยังสามารถที่จะนำเลข Tracking ให้ผู้รับนำเอาไปตรวจสอบสถานะด้วยตัวเองก็ได้เช่นกันค่ะ