แชร์วิธีแพ็คของส่งต่างประเทศ ให้ประหยัดค่าส่งและของไม่เสียหาย

การแพ็คสินค้าสำหรับส่งของไปต่างประเทศมีความสำคัญมากกว่าที่หลายๆคนคิด เพราะการแพ็คสินค้าที่ดีและการเลือกกล่องพัสดุที่เหมาะสม นอกจากจะช่วยป้องกันไม่ให้พัสดุเกิดความเสียหายจากการที่พัสดุของเราต้องเดินทางข้ามประเทศไปไกล ยังมีส่วนช่วยให้ราคาในการจัดส่งถูกลงทางอ้อมอีกด้วย

นอกจากนี้ถ้าเป็นการขายสินค้าระหว่างประเทศ การแพ็คสินค้าที่ดียังช่วยเพิ่มความเป็นมืออาชีพในสายตาของลูกค้าให้ดูน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น ลูกค้าที่เห็นพัสดุถูกแพ็คมาอย่างดีย่อมรู้สึกว่าผู้ขายมีความใส่ใจ เกิดความประทับใจจนทำให้ลูกค้ากลับมาสั่งซื้อสินค้าซ้ำในอนาคตได้ ขั้นตอนในการแพ็คของส่งต่างประเทศให้ดูมืออาชีพ สามารถทำได้ไม่ยากเลย ลองทำตามขั้นตอนทั้ง 4 นี้ได้เลยค่ะ

4 ขั้นตอนแพ็คของส่งต่างประเทศ

สำหรับการแพ็คของส่งต่างประเทศให้มืออาชีพ จะต้องผ่านการทำ 4 ขั้นตอนนี้

1. เลือกขนาดกล่องพัสดุให้เหมาะสม

การเลือกขนาดของกล่องให้เหมาะกับของที่ต้องการส่งมีความสำคัญมากๆ โดยจะต้องพิจารณาจาก ขนาด น้ำหนัก และรูปร่างของสินค้า แล้วเลือกกล่องที่เหมาะสม ควรเลือกกล่องที่มีขนาดใหญ่กว่าขนาดของสินค้าให้มากพอในระดับหนึ่ง เพราะจะต้องเหลือพื้นที่บริเวณรอบๆสินค้าเพื่อบรรจุวัสดุกันกระแทกด้วย ในขณะเดียวกันก็ต้องไม่เลือกกล่องที่มีขนาดใหญ่เกินไปเพราะจะทำให้พื้นที่ว่างด้านในเหลือเยอะจนทำให้สินค้าด้านในขยับไปมาได้

สินค้าบางชนิดอาจจะต้องใช้กล่องแบบพิเศษในการจัดส่ง ตัวอย่างเช่นการแพ็คไม้กอลฟ์ ที่ด้วยรูปทรงแล้วอาจจะบรรจุไม้กอลฟ์ลงไปในกล่องทรงสี่เหลี่ยมแบบปกติได้ยาก ไม่ว่าจะจัดวางมุมไหนก็ไม่สะดวก ก็ต้องเปลี่ยนไปใช้ใช้กล่องยาว-แคบในการบรรจุแทน และที่สำคัญคือจะต้องไม่ลืมที่จะเลือกกล่องที่เหมาะสมกับน้ำหนักของสินค้า ถ้าเป็นสินค้าที่มีน้ำหนักเยอะก็ควรเลือกกล่องที่มีความหนาและความแข็งแรงเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายในระหว่างการจัดส่ง

2. เลือกวัสดุกันกระแทกให้เหมาะสม

หลังจากที่เราเลือกกล่องที่เหมาะสมแล้ว ขั้นตอนต่อไปจะเป็นการนำเอาสินค้าของเราบรรจุเข้าไปในกล่องเพื่อเตรียมการแพ็ค แต่เราจะไม่ใส่สินค้าเข้าไปวางในกล่องแบบตรงๆเพราะจะต้องมีการห่อหุ้มด้วยวัสดุกันกระแทนก่อนอย่างน้อย 2-3 ชั้นรอบๆตัวสินค้า เพื่อป้องกันการกระแทกในระหว่างการจัดส่งซึ่งอาจจะทำให้ตัวสินค้าเกิดความเสียหายในระหว่างการเคลื่อนย้ายได้

สินค้าทุกชนิดควรมีการห่อวัสดุกันกระแทกแม้ว่าจะเป็นสินค้าที่ไม่ได้มีลักษณะที่แตกหักง่ายก็ตาม (หรือแม้ว่าจะไม่ได้เป็นสินค้าที่มีพื้นผิวที่เป็นรอยได้ง่าย ก็ควรที่จะบรรจุกันกระแทกเข้าไปด้วย) เพราะการส่งของไปต่างประเทศจะต้องผ่านกระบวนการหลายจุด ผ่านการเคลื่อนย้าย และพัสดุของเราจะวิ่งไปหลายที่ ดังนั้นการป้องกันด้วยวัสดุกันกระแทกเอาไว้ก่อนเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยกว่า

วัสดุที่ใช้สำหรับกันกระแทกที่ได้รับความนิยมเวลาจัดส่งพัสดุต่างประเทศก็คือ 

• เม็ดโฟมกันกระแทก: ช่วยกันกระแทกได้ดี ข้อดีคือช่วยรักษาต่ำแหน่งของสินค้าในกล่องได้ดี ไม่ให้ทำให้สินค้าขยับเขยื้อนมากนัก
• บับเบิ้ล: เหมาะกับสินค้าที่มีน้ำหนักเยอะๆรวมถึงของที่แตกง่าย ด้วยการออกแบบของ Bubble จะช่วยรับแรงกระแทกได้เป็นอย่างดี ทำให้ลดความเสียหายได้
• ถุงลม: เหมาะกับการใช้แทรกเข้าไปในกล่องพัสดุซึ่งจะช่วยป้องกันการกระแทกบริเวณหัวมุมของสินค้าได้เป็นอย่างดี

3. ปิดกล่องให้แน่นหนา

เมื่อทำการบรรจุสินค้าลงไปในกล่องพร้อมด้วยการห่อวัสดุกันกระแทกแล้ว ตอนนี้ก็มาถึงอีกหนึ่งขั้นตอนสำคัญนั่นก็คือ “การปิดกล่อง” การปิดกล่องพัสดุที่ดีจะต้องปิดให้แน่นหนา ปิดทุกพื้นที่ที่เป็นรอยต่อของกล่องให้สนิท ถ้าหากกล่องที่ใช้ในการบรรจุเป็นแบบฝาประกบ แนะนำให้ติดเทปเป็นรูปตัว H ซึ่งจะช่วยซับแรงได้สองทาง ทำให้ฝากล่องมีความแน่นหนามากยิ่งขึ้น

บริเวณด้านล่างของตัวกล่องก็ควรที่จะติดเทปด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะบริเวณที่เป็นรอบต่อของฝากล่องด้านล่างควรติดเทปเพื่อป้องกันไม่ให้ฝากล่องแยกออกจากกัน และถ้าเป็นพัสดุที่มีน้ำหนักมากก็ควรที่จะติดเทปเป็นรูปตัว H เช่นเดียวกันเพื่อซับน้ำหนักจากสินค้าที่ลงมาสู่ฝากล่อง ฝากล่องด้านล่างจะไม่แตกออกได้ง่ายๆ

4. แปะฉลากพิเศษให้มองเห็นชัดเจน

หลังจากที่เราปิดกล่องเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้พัสดุของเราก็พร้อมที่จะทำการจัดส่งไปยังจุดหมายปลายทางแล้ว แต่ก่อนที่จะทำการจัดส่ง ในขั้นตอนสุดท้ายนี้ คุณสามารถแปะฉลากเข้าไปที่ตัวกล้องหรือเพิ่มข้อความที่อยากเน้นเข้าไปที่ด้านข้างของกล่องได้ ตัวอย่างเช่น ระวังแตก หรือ FRAGILE เพื่อเป็นการเน้นยำให้ผู้ปฏิบัติงานในแต่ละจุดที่อยู่ระหว่างการจัดส่งพัสดุ ทำการระมัดระวังไม่ให้เกิดความเสียหายกับตัวกล่องพัสดุของเรา

หลังจากที่ได้ทำการแพ็คกล่องพัสดุตามขั้นตอนทั้ง 4 แล้ว ตอนนี้พัสดุของเราก็พร้อมสำหรับการจัดส่งไปยังจุดหมายปลายทางแล้ว คุณสามารถเช็คราคาการส่งของไปต่างประเทศ หรือถ้ามีคำถามเพิ่มเติมใดๆเกี่ยวกับการแพ็คสินค้า สามารถสอบถามได้จากทีมงาน FastShip ได้เลยค่ะ