fbpx
 

3 เทคนิคตั้งราคาให้ขายดีบน Amazon และ eBay

Amazon

3 เทคนิคตั้งราคาให้ขายดีบน Amazon และ eBay

นอกจากการขายสินค้าที่เป็นที่ต้องการของตลาดแล้ว การตั้งราคาที่ดี ถือเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อยอดขายบนเว็บไซต์ Marketplace อย่าง Amazon และ eBay เป็นอย่างมาก ผู้ขายที่ขายสินค้าเหมือนๆกันแต่มีการตั้งราคาที่แตกต่างกันอาจจะมียอดขายที่แตกต่างกันมากได้ หลายคนอยากรู้เทคนิคเคล็ดลับในการจะตั้งราคาสินค้าบน Amazon ว่าจะทำยังไงให้ขายดีเหมือนเทน้ำเทท่า วันนี้ FastShip จะมาแชร์ 3 เทคนิคในการตั้งราคาเพื่อให้ขายดีบน Amazon และ eBay กัน

1. ตั้งราคาเกินเพื่อไว้ลดราคา

วิธีการตั้งราคาแบบแรกเป็นเทคนิคการขายแบบดั้งเดิม (traditional) ที่พ่อค้าแม่ค้าทั่วไปใช้กันเป็นปกติอยู่แล้ว เป็นการตั้งราคาที่เผื่อเอาไว้สำหรับลดราคาโดยที่การลดราคาไม่ทำให้ขาดทุน เช่น คุณต้องการจะขายสินค้าชนิดหนึ่ง โดยที่มีราคาในใจอยู่ที่ 15 เหรียญ แต่คุณอาจจะตั้งไว้ที่ 20 แล้วตั้งลดราคาลงมาเหลือ 15 เหรียญ เพื่อสร้างแรงดึงดูดและทำให้ลูกค้าสนใจว่าสินค้าของคุณกำลังลดราคาอยู่นั่นเอง ลูกค้าที่เห็นสินค้าลดราคาย่อมถูกดึงดูดได้มากกว่าสินค้าที่ขายในราคาปกติ (แม้อันที่จริงแล้วจะเป็นราคาเดียวกันก็ตาม)

แต่ข้อควรระวังสำหรับการตั้งราคาแบบนี้คือคุณจะทำได้ก็ต่อเมื่อสินค้าที่คุณขาย “มีเพียงคุณคนเดียวเท่านั้นที่ขายอยู่” เพราะถ้าหากมีคู่แข่งที่ขายสินค้าเหมือนๆกันอยู่ แน่นอนว่าการจะตั้งราคาแบบนี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะลูกค้าอาจจะเห็นสินค้าเดียวกันที่ขายในราคา 15 เหรียญแบบไม่ลดราคาจากคู่แข่ง แล้วลูกค้าจะรู้ทันทีว่าการลดราคาของคุณนั้นเป็นกลยุทธ์การตลาด (ไม่ใช่การลดราคาจริงๆ)

2. ตั้งราคาแพงสินค้ากว่า แต่ราคารวมแล้วถูกกว่า

การขายสินค้าบน Amazon ถึงแม้สินค้าบางอย่างจะมีราคาที่ถูกกว่า แต่ก็ไม่ได้แปลว่าจะขายได้ดีกว่าเสมอไป เพราะก่อนที่ลูกค้าจะตัดสินใจซื้อสินค้าส่วนใหญ่ก็มักจะกดดู Other Sellers on Amazon เพื่อเช็คราคาอีกครั้งก่อนจะตัดสินใจซื้อ จะทำให้เห็นว่ามีใครขายสินค้านี้บ้างและมีราคาเท่าไรเพื่อให้แน่ใจว่าตัวเองจะได้สินค้าในราคาที่ถูกจริงๆ

ลูกค้าจะไม่ได้เปรียบเทียบแค่ราคาสินค้าเท่านั้น แต่เขาจะเปรียบเทียบโดยด้วยรวมราคาทั้งหมดของการซื้อสินค้าชิ้นนั้นซึ่งจะรวมกับค่าจัดส่งด้วย เช่น ผู้ขายคนที่ 1 ขายมีดโกนหนวดราคา 50 เหรียญ แต่ต้องเสียค่าจัดส่งอีก 10 เหรียญ รวมแล้วต้องจ่ายทั้งหมด 60 เหรียญ แต่ผู้ขายคนที่ 2 ขายมีดโกนหนวดราคา 59 เหรียญ มีราคาที่แพงกว่าก็จริงแต่ฟรีค่าจัดส่ง รวมแล้วจ่ายเพียงแค่ 59 เหรียญ โอกาสที่ลูกค้าจะเลือกซื้อกับคนที่ 2 ก็มีมากกว่าเพราะถูกกว่านั่นเอง

3. ตั้งราคาดีด้วยการใช้ Amazon Prime เข้ามาช่วย

Amazon

Amazon Prime เป็นบริการหนึ่งของ Amazon ที่ชาวอเมริกานิยมสมัครเพื่อรับสิทธิพิเศษเพิ่มเติม ถึงแม้ว่าจะเสียค่าบริการสำหรับ Amazon แต่การใช้ประโยชน์จาก FBA หรือ Fulfillment by Amazon (ผู้ขายนำสินค้าเข้าไปอยู่ในโกดังของ Amazon เมื่อขายสินค้าชิ้นนั้นได้ Amazon ก็จะทำการจัดส่งไปยังลูกค้าปลายทาง) FBA ถือว่าเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ซื้อมากๆ ซึ่งมันจะสอดคล้องกับเทคนิคแพงกว่าแต่ราคาโดยรวมแล้วถูกกว่า เพราะจะไม่เสียค่าจัดส่ง แถมผู้ซื้อยังได้รับของเร็วกว่า เพราะรูปแบบการจัดส่งจะเป็นแบบ 2 day shipping

ซึ่ง Service นี้จะช่วยทำให้ร้านของคุณมีประวัติการขายที่ดีอีกด้วย จากการที่มอบประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า เช่น ความรวดเร็วในการจัดส่ง, การตอบคำถาม และอื่นๆ โดยบริการนี้ Amazon จะมีคนดูแลให้เราเอง ทำให้ร้านของคุณได้รับ Feedback และ Seller Score ที่ส่งผลต่อการที่จะขึ้นไปอยู่ในหน้า Buy Box เพื่อเพิ่มโอกาสในการขายได้มากขึ้น

แต่ข้อควรระวัง คือ คุณต้องคำนวณราคาต้นทุน ค่าธรรมเนียมที่ Amazon จะหักเมื่อขายได้ และค่าบริการ FBA ให้ดีๆ เพื่อที่จะได้ไม่ขาดทุนจากการขายของ

อยากส่งของไปสต๊อกไว้ที่ FBA ง่ายๆสามารถติดต่อพนักงานของ FastShip เพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้เลยค่ะ เริ่มต้นส่งของกับบริษัทโลจิสติกส์ระหว่างประเทศชั้นนำอย่าง FastShip คลิกเลย https://fastship.co


Bitnami