ทำอะไรให้ได้ยอดขายเพิ่มนะ? : Ep 1

ในยุคของสังคมออนไลน์ที่ใครๆก็สามารถเข้าถึงสื่อ และข้อมูลต่างๆได้อย่างรวดเร็ว การขายของออนไลน์เป็นหนึ่งสิ่งที่พ่อค้าแม่ค้า ต่างไม่พลาด เข้ามาจับจองพื้นที่สื่อกันอย่างเนืองเเน่น เพราะขอแค่มีอินเตอร์เน็ต สินค้าของคุณก็สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่างกว้างขวาง และด้วยสถานะการณ์การแพร่ระบาดของโควิดที่ผ่านมา ที่ทั้งโลกต่างถูกชัตดาวน์ไม่ให้ออกข้างนอก นั้นจึงเป็นจุดเริ่มต้นให้ตลาดการขายของออนไลน์เติบโตขึ้นเป็นทวีคูณ และมีการแข่งขันทางตลาดที่สูงขึ้น เนื่องจากลูกค้ามีตัวเลือก เกิดการเปรียบเทียบสินค้า หรือบริการของแต่ละธุรกิจได้มากขึ้น เจ้าของธุรกิจจึงต้องมีการปรับตัวอย่างมากเพื่อเป็นการเพิ่มยอดขายและเร่งสร้างกำไรให้ปังๆ และวันนี้ FastShip เราจะพาทุกคนมารู้จักกับกลยุทธ์ และวิธีการต่างๆ เพื่อช่วยเพิ่มยอดขาย และตอบโจทย์ของลูกค้าให้ได้มากที่สุดกัน

1.รู้ Pain point จับจุดลูกค้าได้ทันที 

หนึ่งสิ่งที่คนขายของมักจะพลาดเหมือนกันคือ บอกออกไปตรงๆว่า สินค้าของฉันดีอย่างนั้นอย่างนี้ โดยที่ไม่ได้สนใจลูกค้าว่าเขาต้องการสินค้าชิ้นนั้นๆเพราะอะไร ซึ่งสิ่งที่ควรทำจริงๆ คือ การหันมามองที่ลูกค้าของเรา เขาเป็นใคร ต้องการอะไร อายุเท่าไหร่ มีความกังวลเรื่องอะไรบ้างกว่าที่จะตัดสินใจ เมื่อเรารู้ Pain point ของลูกค้า เราจะสามารถนำสิ่งเหล่านั้น มาประยุกตใช้เป็นกลยุทธ์ทางการขายของเราได้ เช่น ไอโฟนที่โฆษณา ว่าภาพนี้ถ่ายโดย นาย A ภาพนั้นถ่ายจากนาย B เพราะมาจากอินไซต์ที่ว่าใครๆก็อยากถ่ายรูปให้ออกมาสวย เหมือนมืออาชีพได้ นอกจากจะโดนใจผู้บริโภคแล้ว ยังเป็นการขายไปเนียนๆว่า จะถ่ายรูปออกมาให้สวยและดีก็ต้องมีกล้องคุณภาพดีๆ แบบไอโฟนสิ

2.จุดเด่นต้องมี ข้อดีที่ยืนหนึ่งในวงการ 

ก่อนการซื้อของทุกครั้ง เดียวนี้ลูกค้ามักจะเปรียบเทียบสินค้าเรากับคู่แข่งอยู่แล้ว ดังนั้นเพื่อให้เราสามารถแย่งชิงคนๆนึงมาเป็นลูกค้าให้ได้นั้น เราต้องมีจุดยืนที่แข่งแกร่งว่าสินค้าของเราดีตรงไหน หรือ จะเป็นภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่โดดเด่นให้คนจำได้ก็ได้ อย่างเช่น น้ำพริกแคบหมูยายน้อย ที่ตัวสินค้าไม่ได้ต่างจากคู่แข่งอื่น แต่สร้างภาพจำด้วยการ บูลี่ตัวเอง บวกกับอินไซต์ว่า แคปหมูอาจจะเหนียว หรือแข็งเกินไป ทำให้เป็นที่มาของภาพจำสุดฮา อย่าง “ดีต่อใจ บรรลัยต่อฟัน” แบบนี้ได้

3.ขยายช่องทางการขายไปทั่วโลก

เนื่องจากตอนนี้ตลาดอีคอมเมิร์ซกำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นสูงอย่างมาก ผู้คนส่วนใหญ่หันมาซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์กันเป็นหลัก ส่งผลให้การขายสินค้าเพียงช่องทางเดียวไม่สามารถตอบโจทย์ได้อีกต่อไป พ่อค้าแม่ค้าจึงควรขยายช่องทางการขายไปยังแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆเพื่อขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น ซึ่งนอกจากช่องทางโซเชียลอย่าง Facebook , Instgram หรือ TikTok แล้ว ก็ยังสามารถขยายฐานลูกค้าไปยังต่างประเทศได้ อย่างแพลตฟอร์มออนไลน์ที่กำลังเป็นที่นิยมทั่วโลกอย่าง Amazon ,Ebay , Etsy , Pinkoi  เพราะการมีช่องทางการขายสินค้าที่หลากหลายจะทำให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงได้อย่างง่ายดายและช่วยเพิ่มโอกาสในการขายสินค้าได้อีกด้วย

4.เลือกช่องทางสื่อสาร ที่ตรงกับลูกค้าของคุณ 

การจะส่งข้อความของเราไปให้ถึงกลุ่มเป้าหมาย เราต้องรู้ด้วยว่าเขาอยู่ที่ไหน และ คอนเทนต์แบบไหนที่เขาสนใจมากที่สุด โดยอ้างอิงจากข้อมูล customer journey ว่าก่อนที่จะเลือกใช้ซื้อสินค้าและบริการสักหนึ่งอย่าง เขาคิดถึง หรือกังวลเรื่องอะไรบ้าง แล้วก็ส่งข้อมูลสินค้าที่สามารถแก้ปัญหานั้นไปให้ลูกค้าศึกษาในช่องทางที่เขาอยู่ในช่วงที่เขากำลังจะตัดสินใจซื้อ จะทำให้เขาสนใจสินค้าของเราได้มากกว่า และทำให้เรามาอยู่ในตัวเลือกลำดับแรกๆในใจลูกค้าได้

5.การทำโปรโมชั่น กระตุ้นความอยากซื้อ

การทำโปรโมชั่นกระตุ้นต่างๆ เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ขั้นพื้นฐาน ที่ทำให้ลูกค้าเราซื้อสินค้ามากกว่าปกติได้ ซึ่งมีหลายรูปแบบ เช่น ลด แลก แจก แถม หรือระบบmembership สะสมแต้มแลกของ แลกส่วนลด ยิ่งคุณมีกิจกรรมโปรโมชั่นก็ยิ่งเรียกลูกค้าได้ดี แต่!ถ้ามีโปรบ่อยและถี่เกินไป อาจจะเป็นผลเสียต่อธุรกิจได้ เพราะคนจะรอแต่ตอนลดราคา ดังนั้น ควรศึกษา Insight ของลูกค้าว่าชอบซื้อสินค้าแบบไหน และช่วงเวลาไหนควรทำโปรโมชั่น จะทำให้เพิ่มยอดขายและได้รับความสนใจจากลูกค้าแน่นอน

6.เลือกขนส่งดีมีชัยไปกว่าครึ่ง                         

ตบท้ายด้วยสิ่งที่ผู้ประกอบการหลายท่านคงคิดไมีถึง อย่างการเลือกขนส่งได้คุณภาพ ผู้ประกอบหลายท่านอาจจะส่งสัยว่าการเลือกขนส่งที่มีคุณภาพเกี่ยวข้องกับการเพิ่มยอดขายยังไง? ขอตอบตรงนี้เลยว่ามีส่วนมาก เพราะการเลือกขนส่งที่มีคุณภาพ จะทำให้การจัดส่งสินค้าเป็นเรื่องง่ายและสร้างความประทับใจให้ลูกค้า  เพราะต่อให้การตลาดดีมากแค่ไหน แต่ขนส่งไม่ดี ส่งของล่าช้า หรือทำให้สินค้าเสียหายระหว่างการเดินทาง ก็จะทำให้ลูกค้าไม่ประทับใจ เกิดคอมเม้นท์ไม่ดี คนอื่นก็ไม่อยากมาซื้อต่อ ทำให้เราเสียลูกค้าไปในที่สุด ดังนั้นควรเลือกขนส่งที่เหมาะสมเพราะนอกจากจะทำให้ลูกค้าประทับใจแล้ว ยังจะส่งผลต่อยอดขายและกำไรได้อีกด้วย 

ดังนั้นถ้าหากใครอยากส่งของไปขายที่ต่างประเทศ  FastShip ก็เป็นตัวเลือกที่ดี และตอบโจทย์อย่างแน่นอน เพราะสามารถส่งออกได้ทั่วโลก ให้บริการแบบ Door to Door เข้ารับถึงหน้าบ้านฟรีทั่วประเทศ พร้อมประกันพัสดุฟรี รับประกันหมดห่วงเรื่องสูญหาย เสียหาย ลูกค้าประทับใจแน่นอน สนใจสอบถามข้อมูลได้ ที่ เบอร์ 02-0803999 หรือ Line ID : @fastship.co