04 ม.ค. บทวิเคราะห์ ขายของ amazon ในปี 2022 ยังน่าขายอยู่เปล่า
หลายๆคนน่าจะคุ้นชื่อของ Amazon บางท่านอาจจะเคยเป็นลูกค้าที่สั่งซื้อสินค้าจาก Amazon กันมาบ้างแล้ว สำหรับคนที่ขายของออนไลน์ หลายๆคนอาจจะมีคำถามว่านอกจากการขายตลาดภายในประเทศแล้ว ถ้าอยากจะขยายตลาดไปขายสินค้าใน Amazon เพื่อส่งออกไปยังต่างประเทศจะดีไหม แล้วขายของใน Amazon ปี 2022 ยังสร้างรายได้ดีหรือเปล่า วันนี้เราจะมาหาคำตอบนี้กันค่ะ
เมื่อพูดถึงแนวทางการหารายได้เสริม และสร้างธุรกิจส่วนตัวของคนไทยในยุคปัจจุบัน “การขายของออนไลน์” น่าจะเป็นสิ่งแรกๆที่หลายๆคนนึกถึง มีมนุษย์เงินเดือนจำนวนมากที่หารายได้เสริมด้วยการขายของออนไลน์จนสามารถเปลี่ยนให้เป็นรายได้หลักและลาออกจากงานประจำ ถ้าหยิบสินค้าได้ถูก ทำการตลาดได้โดนใจ ให้บริการลูกค้าได้ดี รับรองว่าการขายของออนไลน์จะเป็นช่องทางสร้างรายได้ที่ดีอย่างแน่นอน
เมื่อพูดถึงการขายของออนไลน์ ก็จะมีผู้ขายที่เน้นตลาดหลักๆ 2 ประเภทคือ
1. ขายสินค้าให้กับลูกค้าในประเทศ
เน้นการขายสินค้าให้กับลูกค้าในประเทศ ช่องทางหลักๆที่ได้รับความนิยมก็คือ Social media ต่างๆอย่างเช่น ขายผ่าน Facebook, IG นอกจากนี้การขายผ่านเว็บไซด์ของตัวเองก็ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆเพราะความง่ายของการทำเว็บไซต์ในปัจจุบันที่ใครๆก็สามารถทำได้ ไปจนถึงการขายสินค้าผ่านช่องทาง Marketplace ยอดนิยมต่างๆ เช่น lazada, shopee และอื่นๆ เรียกได้ว่ามีช่องทางการขายให้เลือกเพียบ
2. การขายสินค้าให้กับลูกค้านอกประเทศ
สำหรับการขายสินค้าไปยังต่างประเทศนั้นจะมีช่องทางการขายที่แตกต่างไปเล็กน้อย เพราะลูกค้าในตลาดหลักๆอย่างสหรัฐอเมริกา อังกฤษ จะไม่ได้นิยมช้อปปิ้งสินค้าออนไลน์ผ่าน Social media เหมือนในประเทศไทย แต่ช่องทางหลักๆที่ใช้เพื่อเลือกซื้อสินค้าออนไลน์จะเป็นเว็บไซด์ของแบรนด์โดยตรง และ Marketplace ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่รวบรวมสินค้าจำนวนมาให้เลือกซื้อในที่เดียว
สำหรับผู้ขายชาวไทยมี 2 marketplaces ใหญ่ๆ ที่นักขายชาวไทยให้ความสนใจ และเข้าไปขายสินค้ากันเป็นจำนวนมาก นั่นก็คือ Amazon และ eBay (ยังมี marketplace ที่เฉพาะทางอีกเพียบ เช่น etsy, bonanza และอื่นๆให้เลือกขายอีกเป็นจำนวนมาก)
2 marketplaces เจ้าใหญ่ถ้านับรวมกันแล้วน่าจะมีฐานลูกค้าเกินครึ่ง หรืออาจมากกว่า 80% ของปริมาณคนที่ซื้อของออนไลน์ในโลกนี้ เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ทั้ง eBay และ Amazon ได้รับความนิยมในหมู่นักขายที่อยากขายของไปต่างประเทศ
สำหรับ Amazon ในปัจจุบันที่แซงหน้า eBay ในเรื่องความนิยมของผู้ขายชาวไทยไปเป็นที่เรียบร้อย ด้วยหลากหลายเหตุผลที่เอื้อให้ผู้ขายหน้าใหม่และหน้าเก่าสามารถสร้างรายได้อย่างเป็นระบบ พร้อมด้วยเครื่องไม้เครื่องมือที่อำนวยความสะดวกที่ออกแบบมาอย่างเข้าอกเข้าใจ seller มากกว่า แถมยังมี Community ที่พูดคุยสอบถามปัญหาได้ ดังนั้นถ้า Amazon น่าจะเป็นตัวเลือกลำดับแรกสุดสำหรับผู้ขายชาวไทยที่อยากขยายตลาดไปยังต่างประเทศ
4 เหตุผลสำคัญที่การขายสินค้าบน Amazon ยังเป็นเบอร์ 1 ในปี 2022
1. Amazon ทีฐานลูกค้ามากที่สุด และมีโอกาสที่เปิดกว้างมากที่สุด
ด้วยฐานลูกค้ากว่า 244ล้านคน ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไม Amazon Marketplace ถึงได้เนื้อหอมมากในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา สิ่งที่ seller มือใหม่อย่างเราต้องทำก็คือ ค้นหาความต้องการของลูกค้าให้เจอ และนำเสนอสินค้าให้น่าสนใจพร้อมกับราคาที่แข่งขันได้ ซึ่งเราจะว่ามากันแบบเจาะลึกในบทความต่อๆ ไป
เป็นที่รู้กันว่า ลูกค้าที่ค้นหาสินค้าบนเว็บ Amazon นั่นอยู่ในอารมณ์ warm ไปจนถึง hot customer หมายความว่า พวกเขาเหล่านั้นอยู่ในโหมดที่พร้อมซื้อทันที ถ้าเจอสินค้าที่เข้าเงื่อนไขในการตัดสินใจ ต่างจากลูกค้าที่ค้นหาผ่าน google มีความเป็นไปได้ที่จะอยู่ในหมวดของการหาข้อมูลก่อนการตัดสินใจเสียมากกว่า เรียกว่า cold customer
2. ความน่าเชื่อถือของ Amazon โดยผู้ซื้อ
Amazon เป็นแบรนด์ที่ลูกค้าให้ความเชื่อถือ และมั่นใจอยู่แล้ว การนำเสนอสินค้าของเราผ่าน platform ของอเมซอนก็เหมือนการแชร์จุดเด่นตรงนี้ของ Amazon มาเป็นของเราด้วย แน่นอนว่าทาง Amazon เองก็มีระเบียบกฏเกณท์ที่ใช้ควบคุม seller อย่างเรา ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ปริมาณ seller เพิ่มขึ้นอย่างมาก ทำให้ Amazon มีการเพิ่มและปรับเปลี่ยนกฏระเบียบอย่างมาก ที่สุดก็เพื่อรักษาฐานลูกค้าและความน่าเชื่อถือของ platform นี้ไว้
3. Amazon มีระบบการจัดการที่ดีมากๆ
ระบบที่ดีช่วยให้งานยากๆที่ต้องใช้เวลาและความพยายามเยอะกลายเป็นเรื่องง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นความง่ายในการสร้างลิสสินค้า (Create listing) ไปจนถึงขั้นตอนหลังจากขายสินค้าได้ และที่ต้องแนะนำเลยก็คือ ระบบการจัดส่งสินค้าถึงมือลูกค้า ที่เรียกว่า FBA (Fulfillment by Amazon) ที่ช่วยลดเวลาในการทำงาน แถมยังช่วยเพิ่มโอกาสสร้างยอดขายให้กับ seller มากยิ่งขึ้นอีกด้วย
ลองคิดดูครับว่า สินค้าคุณจะขายง่ายขึ้นแค่ไหน ระหว่างใช้เวลาจัดส่งไม่เกิน 5 วัน ด้วยระบบ FBA กับการจัดส่งเองจากไทย (FBM) ที่ใช้เวลา 14-20 วัน ความแตกต่างนี้สร้างความประทับใจให้กับลูกค้าเป็นอย่างมากและแน่นอนว่าย่อมส่งผลต่อยอดขาย เพราะลูกค้ายินดีที่จะซื้อสินค้าที่เขาจะได้รับอย่างรวดเร็วมากกว่าการซื้อสินค้าที่จะต้องรอนานๆ และยังมีโอกาสที่ลูกค้าจะกลับมาซื้อซ้ำได้อีก
แต่ แต่ แต่ ความสะดวกสบายแบบนี้ก็แลกมาด้วยค่าธรรมเนียมที่ไม่ธรรมดาเช่นกัน ผู้ขายหน้าใหม่หลายคนก็มักจะพลาดตกม้าในเรื่องนี้ ควรศึกษาค่าธรรมเนียมในการขาย Amazon ให้ดีก่อนที่จะต้องราคาสินค้า
4. มาพร้อมเครื่องไม้เครื่องมือสำหรับ marketing
Amazon รู้ดีว่ายิ่งผู้ขายทำยอดขายได้เยอะเท่าไหร่ Amazon เองก็จะเติบโตตามไปด้วย ดังนั้น Amazon จึงมีระบบที่สนับสนุนผู้ขายให้ขายสินค้าได้ เรียกได้ว่าออกแบบมาเพื่อเปิดพื้นที่สำหรับทำการตลาดกันเต็มเหนี่ยว ไม่ว่าจะเป็นระบบโฆษณาแบบ pay per click (เหมือนกับ Google Ads) และระบบการสร้าง promotion สำหรับดึงดูดลูกค้า แถมด้วย report ที่ให้เราสามารถเช็คสถิติต่างๆ เพื่อนำมาปรับปรุงคุณภาพและเพื่อยอดขายของเราได้อีกด้วย
ทั้ง 4 ข้อนี้ก็เป็นเหตุผลว่าทำไม Amazon ยังคงเป็นตลาดที่น่าสนใจอยู่ในปัจจุบัน (และอันที่จริงต้องบอกว่าน่าสนใจกว่าเมื่อก่อนด้วยซ้ำ) และไม่ต้องแปลกใจว่าทำไม Amazon ได้กลายเป็น Marketplace ที่คนไทยนิยมเข้าไปขายมากที่สุดแซงหน้ารุ่นพี่อย่าง eBay ไปมาก เหล่านี้คือเหตุผลหลักๆ ที่ไม่อยากให้เพื่อนๆ มองข้ามช่องทางการขายสินค้าบน Amazon อาจจะเป็นอีกช่องทางในการกระจายสินค้าของคุณ หรือเป็นช่องทางหลักในการเริ่มต้นขายของออนไลน์ก็น่าสนใจไม่น้อย
ในบทความหน้าเราจะมาเจาะลึกวิธีการสมัครขายของบน Amazon ขั้นตอนต่างๆ และสิ่งที่ต้องเตรียมพร้อมก่อนการสมัครครับ
Written by Ake (Do Not Tell My Boss)
Facebook : Do Not Tell My Boss
คุณผู้อ่านนี่สนใจขายออนไลน์ผ่าน Amazon.com สามารถคลิกที่ลิงค์ของ Amazon Global Selling