ประเทศจีน ถือเป็นประเทศที่นิยมส่งออกอันต้นๆ ของผู้ประกอบการรายย่อย หรือ SME ต่างก็ต้องการไปเปิดตลาดอย่างแน่นอน ด้วยจำนวนประชากรที่เยอะเป็นอันดับหนึ่งของโลก ซึ่งทำให้กำลังซื้อมากตามมาด้วย ประกอบกับ ณ ปัจจุบัน ประเทศจีนมีการเปิดการค้าเสรีมากกว่าประเทศอื่นๆ จึงทำให้ประเทศจีนเป็นประเทศในฝันสำหรับผู้ประกอบการไทย ดังนั้น หากท่านใดกำลังเริ่มต้นธุระกิจและกำลังมองหาช่องทางการส่งสินค้าที่สะดวก ง่ายและราคาที่แสนจะถูก FastShip คือคำตอบสำหรับคุณ วิธีการส่งออกสินค้าไปจีนยังไงให้สะดวก คือ 1.เลือกสินค้าที่จะขาย   ถึงแม้ว่าประเทศจีนจะมีกำลังซื้อที่มากกว่าประเทศไทย แต่ไม่ใช่ว่าสินค้าทุกประเภทที่ส่งไปขายจะได้รับความนิยม เนื่องจากประเทศจีนเองก็มีประสิทธิภาพในการผลิตสินค้าได้พอๆหรืออาจจะมากกว่าประเทศเราผลิตได้ด้วยซ้ำ ดังนั้น การส่งสินค้าไปขายที่จีนในปัจจุบันนั้น ผู้ประกอบการชาวไทยจึงต้องเลือกสินค้าที่ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคในจีน ทั้งยังควรมีกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน และสินค้าที่ส่งออกไปนั้นควรได้มาตรฐานและคุณภาพของสินค้าควรอยู่ในเกณฑ์ที่ได้รับการยอมรับจากคนจีนด้วย เช่น ผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากยางพาราอย่...

4 เทคนิค ขายของออนไลน์บน Amazon ให้ปัง 1.สร้างแคตตาล็อกสินค้าให้ปัง ลูกค้ากว่า 63% คิดว่ารูปสินค้าสำคัญกว่ารีวิวหรือรายละเอียด ดังนั้นผู้ขายควรถ่ายรูปสินค้าชัดเจน รูปสินค้าควรสื่อให้เห็นว่านางแบบใส่เสื้อผ้าไซต์อะไร และขนาดของเสื้อผ้าเป็นอย่างไรเมื่อใส่ออกมา แต่ถ้าผู้ขายขายพัดลมหรือแอร์ นอกจากขนาดของสินค้า อินโฟกราฟิกก็เป็นอีกวิธีที่จะแสดงให้ลูกค้าดูว่าสินค้านี้ทำงานอย่างไร พร้อมกับไฮไลท์คุณสมบัติของสินค้าไปด้วย นอกจากนี้ ข้อมูลสินค้าต้องมีความละเอียดมาก และไม่ควรโฆษณาเกินจริง ชื่อสินค้าต้องกระชับ และมีความเกี่ยวข้องกับคีย์เวิร์ดที่ลูกค้าใช้ค้นหาได้ง่ายด้วย   2.ทำโฆษณา  Sponsored วิธีการทำจะมี 2 แบบ คือ ถ้าใช้วิธีอัตโนมัติ คือการที่ Amazon จะจับสินค้าเข้าไปอยู่ในกลุ่มที่ผู้ขายเลือกไว้ จากนั้นก็จะแสดงสินค้าให้กับผู้ที่ค้นหาสินค้าที่มีลักษณะคล้ายกับของคุณ แต่ถ้าใช้วิธีแมนนวล ผู้ขายก็จะสามารถเลือกคีย์เวิร์ดที่จะช่วยให้ลูกค้าเจอสินค้าของคุณ หากแบรนด์มีเครื่องหมายการค้าและได้ลงทะเบียนกับ Amazon ไว้แล้ว ก็สามารถเข้าไปที่โฆษณาแบรนด์เพื่อดึงคนให้เข้ามาดูร้านค้าของคุณ โดยลูกค้าจะได้เห็นทั้...

ถ้าพูดถึงเว็บไซต์ขายสินค้าปลีกทางออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ในตอนนี้ก็คงหนีไม่พ้นเว็บไซต์  Amazon.com ที่มีกำลังการเติบโตที่สูงมาก ทั้งยังไม่ได้มีอัตราการขยายตัวอยู่แค่เฉพาะในอเมริกา แต่ยังมีอัตราการขยายตัวไปยังทั่วโลก ทั้งในยุโรปและเอเชีย ถ้าเทียบกับตลาดออนไลน์ที่คนไทยคุ้นดี ก็เหมือน Shopee กับ Lazada เเต่สเกลลูกค้าใหญ่กว่าหลายร้อยเท่านั้นเอง Amazon.com ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 1994 ในเมืองซีแอตเทิล มลรัฐวอชิงตัน โดย Jeff Bezos เริ่มต้นใช้ชื่อว่า Cadabra.com โดยเป็นร้านหนังสือออนไลน์ร้านแรก ๆ ในยุคบุกเบิกของธุรกิจอินเทอร์เน็ต ขณะนั้นเขามีอายุเพียง 30 ปี และตอนแรกเขาขายเพียงหนังสือเท่านั้น และ ในวันที่ก่อตั้งนั้นทางเว็บไซต์ได้วางเป้าหมายว่าเราจะเป็นขายหนังสือออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และจากคำแนะนำของทนายความ ในที่สุด Jeff Bezos ตัดสินใจเลือก ‘Amazon’ เป็นชื่อบริษัท เช่นเดียวกับ Amazon ที่เป็นแม่น้ำที่ยาวที่สุดในโลก Jeff เริ่มต้นธุรกิจของเขา ร่วมกันกับพนักงานแรกเริ่มเพียงแค่ 4 คน และเงินลงทุนเพียง 10,000 เหรียญสหรัฐฯที่ควักจากกระเป๋าตัวเอง Jeff ได้เริ่มต้นทำการตลาดแบบง่าย ๆ ด้วยการส่งอีเมล์ห...