fbpx
 

FAQ รวมคำถามที่พบบ่อยเรื่องภาษี (USA)



📦 การจัดส่งสินค้าไปยัง USA



1.Fastship ยังส่งไป USA ได้ตามปกติไหม?

ตอบ : Fastship สามารถจัดส่งสินค้าไป USA ได้ตามปกติ โดยทางเราจะมีบริการให้ลูกค้าสามารถเลือกจัดส่งได้ทั้งแบบ DDU (ผู้รับจ่ายภาษี) และ DDP (ผู้ส่งจ่ายภาษีล่วงหน้า)

2.การจัดส่งแบบ DDU กับ DDP ต่างกันอย่างไร?

ตอบ :

DDU (Delivered Duty Unpaid) คือ การจัดส่งของถึงปลายทางโดยยังไม่รวมภาษี

  • ใครเป็นผู้จ่ายภาษี ? : ผู้รับปลายทาง ต้องเป็นคนชำระภาษี ศุลกากร และค่าธรรมเนียม (เช่น ค่าดำเนินการเคลียร์สินค้า) ด้วยตัวเอง
  • เหมาะกับใคร: ลูกค้าที่มีประสบการณ์เคลียร์ภาษีเอง หรือผู้รับที่มั่นใจว่ายอมจ่ายแน่นอน
  • ความเสี่ยง:
    • หากผู้รับไม่ยอมชำระภาษี→ สินค้าจะถูกค้างที่ด่านศุลกากร
    • ความรับผิดชอบจะกลับมาที่ ผู้ส่ง (ต้องจ่ายแทน หรือสินค้าอาจถูกตีกลับ)

 

DDP (Delivered Duty Paid) คือ การจัดส่งของถึงปลายทางโดยผู้ส่งจ่ายภาษีให้เรียบร้อยแล้ว

  • ใครเป็นผู้จ่ายภาษี ? : ผู้ส่ง เป็นคนชำระภาษีและค่าธรรมเนียมล่วงหน้า
  • วิธีดำเนินการ : ทาง Fastship จะเก็บค่าภาษีจากผู้ส่งตอนสร้างพัสดุ และชำระแทนที่ปลายทาง → ผู้รับได้รับของ โดยไม่ต้องจ่ายอะไรเพิ่ม
  • ข้อดี:
    • ผู้รับได้รับของเร็วขึ้น ไม่ต้องเสียเวลาเคลียร์ภาษี
    • ลดโอกาสพัสดุตีกลับหรือถูกกักที่ด่านศุลกากร
  • เหมาะกับใคร: ร้านค้าออนไลน์ (เช่น eBay, Etsy, FBA) ที่ต้องการให้ลูกค้าได้รับสินค้าแบบ “all-in” ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม

3.วิธีการกรอก HS Code หรือเลือกยังไง? คำนวณภาษียังไง

ตอบ : HS Code (Harmonized System Code) คือ รหัสมาตรฐานสากลสำหรับสินค้านำเข้า-ส่งออก ใช้ระบุประเภทสินค้าให้ตรงกัน

  • ทำไมต้องใช้ HS Code?
    • คำนวณภาษีและค่าธรรมเนียม → ระบบศุลกากรต้องรู้ว่าสินค้าอะไร
    • ลดปัญหาพัสดุตีกลับหรือถูกกัก → หากใช้รหัสไม่ถูกต้อง อาจเสียภาษีเกิน หรือถูกห้ามนำเข้า
    • มาตรฐานสากล → ทำให้การส่งออก-นำเข้าเป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

 

วิธีใช้ HS Code ใน Fastship

  1. ตรวจสอบ HS Code อัตโนมัติในระบบ
    • ตอนสร้างพัสดุใน Fastship → เลือกสินค้า → ระบบจะแสดง HS Code อัตโนมัติ
  2. กรณีสินค้าของลูกค้าไม่มีให้เลือกในระบบ
    • สามารถใช้ **Fastship HS Code Finder** ค้นหา HS Code ตามประเภทสินค้าและคำอธิบาย หรือไปที่ลิงค์ [www.fastship.ai]

4.วิธีการคำนวณภาษีและค่าธรรมเนียม

ตอบ : วิธีคำนวณภาษีทำอย่างไร?

  • ภาษีสินค้า = มูลค่า × (HS Code% + Tariff 19%)
  • ค่าธรรมเนียมสำรองจ่าย = ภาษี × 10%

 

🧮 ตัวอย่าง: ส่งเสื้อผ้า 500 บาท, HS Code 11%

  • ภาษี HS Code = 55 บาท
  • Reciprocal Tariff 19% = 95 บาท
  • ค่าธรรมเนียม 10% = 15 บาท👉 รวมภาษีและค่าธรรมเนียม = 165 บาท

 

ลูกค้าสามารถตรวจสอบการคำนวณภาษีผ่าน Fastship ได้ ดังนี้

  • เข้า Fastship Tariff Calculator
  • กรอก HS Code และมูลค่าสินค้า → ระบบคำนวณภาษีและค่าธรรมเนียมสำรองจ่ายให้เรียบร้อย


5.การคิดภาษีสำหรับรายการจัดส่งต่าง ๆ

ตอบ :

1. FBA (Fulfillment by Amazon)

  • ใช้การส่งแบบ DDP เท่านั้น → ผู้ส่งจ่ายภาษีล่วงหน้า ลูกค้า/ผู้รับไม่ต้องจ่ายเพิ่ม
  • วิธีคำนวณภาษี:
    • ฐานภาษี HS Code = 11%
    • Tariff = 19%
    • ค่าธรรมเนียมสำรองจ่าย = 10%

รวมแล้ว = 30% + 10% ของมูลค่าสินค้า

  • เหมาะกับร้านค้าที่ส่งไป Amazon FBA เพื่อให้สินค้าเข้าโกดังโดยไม่ติดปัญหาภาษี

 

2. Feed / Shopify / Import Files

  • ส่งได้เฉพาะ DDU → ผู้รับปลายทางเป็นคนจ่ายภาษี
  • ระบบ Fastship จะคำนวณภาษีโดยประมาณ เมื่อพัสดุส่งถึงผู้รับจะต้องชำระค่าภาษีตอนรับของ

6.บริการจัดส่ง USPS แบบรวมภาษี

ตอบ : บริการจัดส่งแบบ USPS จะส่งออกด้วย DDP เท่านั้น (รวมภาษีแล้ว ผู้รับไม่ต้องจ่ายเพิ่ม)

  • บริการรวมภาษีมีค่าใช้จ่ายอื่นนอกจากภาษีอีกไหม?
    • ✔️ มี เช่น brokerage charge, customs fee ที่อาจเกิดขึ้นเพิ่มเติม

 

ความแตกต่างระหว่าง USPS eCommerce และ USPS Ground

7.สินค้าที่ไม่รับจัดส่งกับ USPS

ตอบ : สินค้าที่ไม่สามารถส่งด้วยบริการ USPS ได้ มีดังนี้ 

  • พระเครื่อง / เครื่องราง / พระพุทธรูป
  • อาหาร / อาหารเสริม / ยา
  • ชา กาแฟสำเร็จรูป
  • สินค้าสัตว์เลี้ยง
  • อะไหล่ที่มีน้ำมัน
  • สินค้าที่มีแบตเตอรี่ / ถ่าน

8.ทำไม USPS ไม่มีให้เลือก DDU / DDP?

ตอบ : USPS ส่งของแบบ DDP เท่านั้น**

  • หมายความว่า **ผู้ส่งชำระภาษีล่วงหน้าให้เรียบร้อย** → ผู้รับปลายทางไม่ต้องจ่ายเพิ่ม
  • ข้อดี: ลดความเสี่ยงพัสดุตีกลับหรือสินค้าค้างศุลกากร





FastShip พร้อมดูแลให้คำปรึกษาผ่านช่องทางต่อไปนี้



Bitnami